ยีสต์เวอร์ชั่น 2.0 … ออกแบบโดยมนุษย์

Synthetic Biology: เมื่อมนุษย์กลายเป็นนักประดิษฐ์ชีวิต [EP.3]

 
*ภาพปกเป็นภาพเปรียบเทียบ E. coli เซลล์จุลินทรีย์ป่าที่ยังยุ่งเหยิง ไม่ได้รับการจัดการสวยงาม Syn3A แบคทีเรียมินิมัลที่มีแค่ฟังก์ชั่นเพื่อการดำรงชีวิต และ Sc2.0 ยีสต์เวอร์ชั่นใหม่ที่มีจีโนมถูกจัดเรียงอย่างเป็นระบบระเบียบโดยฝีมือมนุษย์ (ภาพ AI สร้างโดย ผศ. ดร.​ป๋วย อุ่นใจ)
 
20 มกราคม 2025 คือวันที่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถูกจารึกเอาไว้ นี่คือปัจฉิมบทของการออกแบบจีโนมใหม่ของยีสต์ และคือจุดเริ่มต้นของยุคแห่งการเขียนจีโนมของสิ่งมีชีวิตขึ้นมาเองโดยมนุษย์
 
เปเปอร์ Construction and iterative redesign of synXVI a 903 kb synthetic Saccharomyces cerevisiae chromosome จากทีมพันธมิตรนำโดยฮิวจ์ กูลด์ (Hugh Goold) เอียน พอลเซน (Ian Paulsen) และไอแซค พรีโทเรียส (Isak Pretorius) จากมหาวิทยาลัยแมคแควรี (Macquarie University) ที่เผยแพร่ออกมาในวารสาร Nature Communications ในวันนั้นตีพิมพ์รายงานความสำเร็จของการออกแบบและปรับแก้โครโมโซม XVI ซึ่งเป็นโครโมโซมสังคราะห์เส้นสุดท้ายในโครงการออกแบบจีโนมใหม่ให้ยีสต์หรือ Sc2.0 และนี่คือครั้งแรกที่มนุษยชาติสามารถเขียนจีโนมของสิ่งมีชีวิตยูคาริโอตขึ้นมาใหม่ได้ทั้งหมดแบบจริง ๆ จัง ๆ
 
และนี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีจีโนมแบบมินิมัล (minimal genome) อย่าง Synthia ของจอห์น กลาส (John Glass) เครก เวนเทอร์ (Craig Ventor) และทีมจาก JCVI (J Craig Ventor Institute) ที่ตอนนี้ พัฒนาไปถึงเวอร์ชั่น 3A (synthetic Mycoplasma mycoides JCVI-syn3A) จนเหลือจีโนมเพียงแค่ 5 แสน 5 หมื่นเบส และยีนแค่ราว ๆ 500 ยีน (ซึ่งเล็กกว่าจีโนมของแบคทีเรีย Escherichia coli ที่เราใช้กันอยู่ทั่วไปในแลบถึงเกือบ 10 เท่า ) แต่เป็นจีโนมของยีสต์ เซลล์ยูคาริโอตที่มีความซับซ้อนอย่างที่สุด ขนาดจีโนมใหญ่โตมโหฬารถึง 12 ล้านคู่เบส ราว ๆ 6000 ยีน แบ่งกระจายออกไปเป็น 16 โครโมโซม แม้ว่าจุดมุ่งหมายจะคล้ายกันคือให้เข้าใจหลักการดีไซน์จีโนม (design principle) อย่างถ่องแท้ แต่ในรายละเอียด Syn3A และ Sc2.0 นั้นต่างกันแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
 

Syn3A ผ้าใบผืนว่างกับการสรรสร้างค์สิ่งมีชีวิตฝีมือมนุษย์

 
“อะไรที่ผมสร้างขึ้นมาไม่ได้ ผมยังไม่เข้าใจ“ ริชาร์ด ไฟน์แมน (Richard Feynman) นักฟิสิกส์นามกระเดื่องเคยกล่าวไว้ และถ้าอยากเข้าใจชีวิต เราจะต้องออกแบบชีวิตได้ ในกรณีของ Syn3A หากอยากเข้าใจจริงๆ ต้องสามารถออกแบบจีโนมทั้งหมดของมันขึ้นมาใหม่ได้จากศูนย์ แต่ถ้าทำไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องรู้ให้ได้ว่ามียีนอะไรบ้างที่สำคัญต่อชีวิต Syn3A จึงถูกออกแบบมาให้เป็นจุลินทรีย์ที่มินิมัลที่สุด คือมีสารพันธุกรรมเท่าที่จำเป็นแค่สามารถแบ่งเซลล์อยู่รอดได้และไม่เพี้ยนแค่นั้น
 
พวกเขาเปรียบ Syn3A เป็นเหมือนผ้าใบผืนว่าง ที่พร้อมจะรับทุกการปรับแต่ง  ปฏิกิริยาในกระบวนการ เมทาโบลิซึมก็มีแค่เพียงเท่าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและสืบต่อเผ่าพันธุ์ เอนไซม์ทุกตัวที่สร้างได้ และปฏิกิริยาส่วนใหญ่ก็ถูกศึกษามาแล้วอย่างทะลุปรุโปร่งแทบทั้งหมด ทั้งใน ด้านจลนพลศาสตร์ กลไกทางชีวเคมี การควบคุม หรือแม้แต่อัตราการเร่งปฏิกิริยา และด้วยความร่วมมือกับทีมวิจัยของอลิซาเบธ วิลลา (Elizabeth Villa) นักชีววิทยาเชิงโครงสร้างจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก (University of California San Diego) พวกเขาใช้เทคนิคการประกอบภาพความละเอียดสูงจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่เรียกว่า cryogenic electron tomography (cryoET)และสามารถทำแอตลาส (atlas) แสดงตำแหน่งของดีเอ็นเอทุกเส้นและเอนไซม์หลัก ๆ เกือบทุกตัวของเซลล์ Synthia ขึ้นมาใหม่ได้อย่างละเอียดเป็นสามมิติ
 
เมื่อรู้โครงสร้างของเซลล์ รู้ตำแหน่งของเอนไซม์ อีกทั้งยังรู้คุณสมบัติและกลไกในการทำงานของเอนไซม์ทั้งหมด พวกเขาก็สามารถสร้างแบบจำลองลูกบอลที่มีหน้าตาละม้ายคลายคลึงกับโมเดลจากเกม mine craft หรือที่หลายคนมักเรียกว่าแบบจำลองของเล่น (toy model) ที่ใช้ลูกบอลขนาดต่าง ๆ แทนเอนไซม์แต่ละชนิดขึ้นมา และกำหนดให้บอลแต่ละลูกมีคุณสมบัติเฉพาะตัวของแต่ละเอนไซม์เพื่อจำลองแบบพฤติกรรมเอนไซม์ภายในเซลล์ทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ ที่น่าอัศจรรย์คือแบบจำลองของเล่นของพวกเขาช่วยให้นักวิทย์เห็นภาพกลไกการควบคุมการเกิดปฏิกิริยาชีวเคมีต่างๆ ในเมตาโบลิซึมภายในเซลล์ที่มีความมินิมัลอย่างที่สุด อีกทั้งยังสามารถทำนายการเปลี่ยนแปลงพลวัตของการแบ่งเซลล์และพฤติกรรมของเซลล์ที่ถูกปรับแต่งหรือกลายพันธุ์ไปได้อีกด้วย
 
ภาพแบบจำลองของเล่นจากห้องทดลองของไซดา ลูเธย์ ชูลเทน (Zaida Luthey-Schulten) จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยด์ เออร์บานา แชมเปญ (Courtesy of University of Illinois Urbana Champaign)
 
นี่คืออนาคตแห่งเทคโนโลยีชีวภาพที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของเทคโนโลยีไปแบบพุ่งทะยานจนยากจะทำนายได้ เพราะถ้าเปรียบเซลล์มินิมัลนี้เป็นผ้าใบผืนว่างที่พร้อมรอจิตรกรมาแต่งเติมเพื่อสร้างนวัตกรรมพลิกโลก และเราสามารถจำลองแบบและทำนายได้ได้อย่างแม่นยำก่อนว่าผลงานชิ้นเอกที่จะสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นจะมีลักษณะเป็นเช่นไร จะมีคุณสมบัติเป็นไปดังที่คาดไว้หรือไม่ในคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องสร้างพวกมันขึ้นมาจริงๆ ได้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีออกแบบชีวิตก็จะพัฒนาไปได้รวดเร็วขึ้นอย่างมหาศาล และถ้าเอาเอไอมาบูรณาการด้วยแล้ว อนาคตแห่งเทคโนโลยีชีวภาพคงเป็นอะไรที่เหนือจินตนาการ
 

“ยีสต์” จากปริศนาแห่งอดีตถึงเทคโนโลยีปัจจุบัน

 
สำหรับโครงการยีสต์ Sc2.0 หรือยีสต์เวอร์ชั่น 2.0 นั้นกลับมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างไป จาก Syn3A อยู่มากโข มนุษย์รู้จักใช้ยีสต์มานับหมื่นปีตั้งแต่ก่อนที่จะรู้จักว่ายีสต์คืออะไรเสียอีก ทั้งการหมักเบียร์ kas ในอาณาจักรเมโสโปเตเมีย การหมักไวน์ข้าวในจีน ไปจนถึงการหมักขนมปังฟู (leavened bread) ในอียิปต์  ในยุคนั้น กลไกแห่งกระบวนการหมักยังคงเป็นที่ถกเถียงว่าแท้จริงเป็นแค่การเน่าเปื่อยแปรสภาพทางเคมี หรือมีจุลินทรีย์มาเกี่ยวข้อง การมีอยู่ของยีสต์เริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อ แอนโทนี แวน ลิวเวนฮุค (Antonie van Leeuwenhoek) ส่องเห็นเซลล์ ยีสต์ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ และเมื่อศึกษาโครงสร้างลักษณะของยีสต์อย่างละเอียด ในเวลาต่อมา ทีโอดอร์ ชวานน์ (Theodor Schwann) ก็สังเกตเห็นการแตกหน่อของเซลล์ยีสต์ เขาตีความว่ายีสต์นั้น เป็นสิ่งมีชีวิตและน่าจะเป็นจุลินทรีย์จำพวกเชื้อรา
 
แต่ทุกอย่างยังคงไม่มีข้อยุติ จวบจนกระทั่ง หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) พิสูจน์ว่ายีสต์คือพระเอกตัวจริงเบื้องหลังกระบวนการหมักแอลกอฮอล์ในไวน์ เบียร์และอาหารหมักอื่นๆ  มนุษย์ถึงได้รู้ว่ายีสต์ คืออะไร แต่นั่นก็หลังจากที่ได้ใช้ ยีสต์และผลิตภัณฑ์ของยีสต์มายาวนานนับสหัสวรรษ และในปี 1883 อีมิล คริสเตียน แฮนเซน (Emil Christian Hansen) จากห้องทดลองคาร์ลส์เบิร์ก (Carlsberg laboratory) ก็สามารถแยกเชื้อยีสต์ออกมาให้บริสุทธิ์ได้สำเร็จซึ่งช่วยผลักดันความก้าวหน้าของวงการอาหารหมัก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบียร์) ไปอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากมีการกินการใช้มายาวนาน ยีสต์จึงได้รับการตีตราว่า GRAS (generally recognized as safe) หรือก็คือ “ปลอดภัย” ในการนำมาใช้อุปโภคและบริโภค และด้วยเหตุนี้ ยีสต์จึงถูกใช้อย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวงการอาหาร และเชื้อเพลิง ส่วนในวงการวิจัย ยีสต์ก็เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด และมีการศึกษามากที่สุดในเกือบทุกแง่มุม
 

ภาพแสดงนักวิทยาศาสตร์ หลุยส์ ปาสเตอร์ และอีมิล คริสเตียน แฮนเซน (ภาพ AI สร้างโดย ผศ. ดร.​ป๋วย อุ่นใจ)
 

เมื่อมนุษย์จะเขียนจีโนมยีสต์เสียใหม่

 
ในปี 2006 วิศวกรชีวภาพ เจฟ โบเก (Jeff Boeke) จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) เสนอไอเดียว่าอยากจะลองหาวิธีเขียนจีโนมของยีสต์ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น เพราะยีสต์อยู่คู่กันมากับเผ่าพันธุ์มนุษย์มานับหมื่นปี เราใช้งานยีสต์มาอย่างสมบุกสมบัน แต่ความรู้จริงๆ เกี่ยวกับจีโนมยีสต์นั้น เรายังไม่เข้าใจกันอย่างถ่องแท้ เจฟมองต่างมุมกับเครก เวนเทอร์และจอห์น กลาส เขาไม่ได้อยากได้ผ้าใบผืนว่าง จะได้แต่งเติมทุกอย่างจากศูนย์ เขาไม่ต้องการสิ่งมีชีวิตมินิมัล แต่เขาต้องการเขียนจีโนมของสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่จากศูนย์โดยใช้ยีสต์เป็นต้นแบบ เขาต้องการสร้างยีสต์เวอร์ชั่นใหม่ที่เขาเข้าใจหลักการการออกแบบ (design principle) ทุกอย่าง เป็นยีสต์เวอร์ชั่น 2.0 ที่หากเขาอยากดัดแปลงหรือแต่งเติมฟังก์ชั่นอะไรสักอย่างเข้าไป เขาจะสามารถทำได้เป๊ะตามที่เขาปรารถนา แม่นยำ รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถ้าเปรียบ ทีม JCVI อยากได้ภาพสเก็ตที่มินิมัล ในขณะที่เจฟและทีม Sc2.0 ต้องการเข้าใจภาพทั้งภาพเพื่อที่จะได้เลือกเติม เลือกแต่งได้อย่างสัมฤทธิ์ผลสมประสงค์ แต่การจะเริ่มออกแบบและเขียนจีโนมของ “ยีสต์” ที่เป็นเซลล์ยูคาริโอตที่มีโครงสร้างที่ใหญ่ ยากและซับซ้อนขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้นนั้นถือเป็นเรื่องที่มีแต่ในความฝัน ถ้าจะเป็นไปได้ ก็ต้องเป็นโครงการเมกะโปรเจ็คต์ขนาดใหญ่โตมโหฬารที่ต้องใช้ทุนรอนมากมายมหาศาล ไม่แพ้โครงการในตำนานอย่างโครงการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ (human genome project)
 
ก้าวแรกของเจฟ ถือเป็นความท้าทายยิ่งใหญ่ที่เขาจะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เพราะแค่เริ่ม รายจ่ายก็เบ่งบาน นักวิจัยเชี่ยวชาญที่จะมาช่วยก็ไม่มี ต้องยอมรับว่าแผนการที่เจฟวางไว้ช่างแยบยล แทนที่จะเริ่มด้วยการหาทางจ้างนักวิจัย (ที่จะทำงานได้มั้ย ไม่รู้) เจฟเลือกที่จะสร้างเเพลตฟอร์ม แล้วเปิดคลาสเรียนสร้างจีโนมขึ้นมาที่จอห์นส์ ฮอปกินส์ ในปี 2007 คลาสนี้มีชื่อว่า Build-a-Genome หรือ B-A-G คลาสเรียนนี้เริ่มต้นโดยมีหลักคิดว่าถ้าเราจะออกแบบจีโนมยีสต์เสียใหม่ “จะทำให้มันเรียบง่ายและควบคุมได้ดีกว่านี้ได้อย่างไร” การจัดการเรียนการสอนของคลาส B-A-G เป็นมากกว่าแค่สอนและให้ทำแบบฝึกหัดหรือแบบทดสอบในห้องเรียน แต่คือการสร้างแนวคิดสำหรับวิศวกรชีวภาพรุ่นใหม่
 

ภาพจำลองห้องเรียน B-A-G (ภาพ AI สร้างโดย ผศ. ดร.​ป๋วย อุ่นใจ)
 
เพื่อให้ Sc2.0 ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ เจฟได้นำเอาหลักการทางวิศวกรรม Design – Build – Test- Learn มาประยุกต์ใช้ในชั้นเรียนอย่างเคร่งครัด โดยเขาจะสอนให้นักศึกษาของเขาเริ่ม ออกแบบ (Design) ซึ่งจะเริ่มจากการวิเคราะห์ยีน ลบลำดับที่ไม่จำเป็น และเพิ่มจุดตัดต่อเพื่อการปรับแต่งในอนาคต และพอได้ลำดับดีเอ็นเอใหม่แล้ว พวกเขาก็จะ สร้าง (Build) ลำดับ DNA ที่ออกแบบนั้นขึ้นมาโดยการสังเคราะห์ทางเคมี และนำมาต่อเข้าด้วยกันเป็นสายยาว ต่อมา พวกเขาก็จะทดสอบ (Test) จีโนมใหม่นั้นในยีสต์ และประเมินว่าจีโนมที่ออกแบบมานั้นสามารถทำงานได้จริงในยีสต์หรือไม่ ท้ายที่สุด พวกเขาก็จะ วิเคราะห์สรุปและประมวลผลการทดลองทั้งหมดที่ได้มา และเรียนรู้ (Learn) เพื่อนำไปปรับใช้ในการออกแบบลำดับดีเอ็นเอท่อนต่อ ๆ ไป ซึ่งรูบริกหรือเกณฑ์ประเมินก็ถูกปรับให้สะท้อนการคิดเชิงออกแบบ ความแม่นยำทางชีวสารสนเทศ และความร่วมมือในทีม ไม่ใช่แค่คะแนนสอบข้อเขียน
 
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเจฟน่าสนใจ การที่เขาเปิดโอกาสให้นักศึกษาร่วมเป็นผู้ออกแบบและสร้างโครโมโซมยีสต์เวอร์ชั่นใหม่ขึ้นมาจริง ๆ ได้ช่วยส่งเสริม ทักษะการคิดเชิงออกแบบและทำงานร่วมกันในทีมวิจัย อีกทั้งยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาหลายคนของเขาเกิดแรงฮึด และเติบโต จนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของวงการชีววิทยาสังเคราะห์ในปัจจุบัน
 
การจัดคอร์ส B-A-G ของเจฟกลายเป็นที่โจษขาน สำหรับกลุ่มลูกศิษย์และเพื่อนรวมงานของเจฟ  Sc2.0 เป็นมากกว่าแค่คอร์สเรียนหรือโครงการวิจัย แต่มันเป็นฝันที่พวกเขามีร่วมกัน หลายปีผ่าน คอร์ส B-A-G เริ่มกระจายไปในหลายมหาวิทยาลัย ในหลายประเทศ มีนักเรียน นักศึกษาที่เคยผ่านคอร์สนี้มานับร้อย และท้ายที่สุด พวกเขาก็เริ่มก่อตั้งเป็น “ประชาคมวิจัย (research community)” เพื่อการเขียนจีโนมขึ้นมาใหม่ แต่โครงการนี้ก็ใช่จะราบรื่น มีหลายครั้งที่ การทดลองพวกเขาต้องหยุดชะงักด้วยปัจจัยหลายประการ เช่นการย้ายมหาวิทยาลัยของเจฟในปี 2013 และมีบางช่วงที่พวกเขาขาดเงินทุนวิจัย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังมีนักวิจัยแกนนำในประชาคมที่ยังพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการนี้ต่อ
 
15 ปีกับความร่วมมือของประชาคมวิจัยทั่วโลกหลายร้อยชีวิต ในที่สุด ในปี 2025 จีโนมยีสต์ที่ถูกเขียนใหม่โดยมนุษย์ทั้งชุดก็เสร็จสมบูรณ์ เมื่อทีมวิจัยนำโดยมหาวิทยาลัยแมคแควรี (Macquarie University) ในประเทศออสเตรเลียได้รายงานความสำเร็จของการสังเคราะห์โครโมโซมสุดท้าย synXVI ในวารสาร Nature Communications และได้กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญในระลอกคลื่นแห่งการพัฒนาเทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์ของมวลมนุษยชาติ ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของชีววิทยาไปแบบกู่ไม่กลับ
 
นี่คือบทพิสูจน์ที่ชี้ชัดแล้วว่าถ้าเรามีศรัทธาและความรู้ “จีโนมของชีวิต” ก็ถูกลิขิตได้ด้วยมือน้ำมือมนุษย์ คำถามที่ต้องตอบให้ได้ เวลานี้ ก็คือเมื่อมนุษย์อหังการ์ถึงขนาดเขียนจีโนมของสิ่งมีชีวิตขึ้นมาได้แล้ว ในอนาคตข้างหน้า สังคมมนุษย์จะหาวิธีจัดการกับความเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงจากเทคโนโลยีพลิกโลกนี้ได้อย่างไร และเราจะเอาเทคโนโลยีสุดอลังการเหล่านี้มาใช้แก้ปัญหาอะไรกันบ้างเพื่อความกินดีอยู่ดีของมวลมนุษยชาติ
 

ตารางแสดงรายละเอียดของการมีส่วนร่วมในการเขียนโครโมโซมยีสต์ Sc2.0

References

ประวัติศาสตร์การใช้ยีสต์และการค้นพบในยุคก่อนชีวโมเลกุล

Michel, R. H., McGovern, P. E., & Badler, V. R. (1992). Chemical evidence for ancient beer. Nature, 360(6406), 24. https://doi.org/10.1038/360024a0

Samuel, D. (1996). Investigation of ancient Egyptian baking and brewing methods by correlative microscopy. Science, 273(5274), 488–490. https://doi.org/10.1126/science.273.5274.488

McGovern, P. E., Zhang, J., Tang, J., Zhang, Z., Hall, G. R., Moreau, R. A., … & Wang, C. (2004). Fermented beverages of pre-and proto-historic China. PNAS, 101(51), 17593–17598. https://doi.org/10.1073/pnas.0407921102

Schwann, T. (1837). Preliminary communication on the yeast plant and fermentation. Archiv für Anatomie, Physiologie und wissenschaftliche Medicin, 1837, 1–16.

Pasteur, L. (1876). Études sur la bière. Paris: Gauthier-Villars.

Barnett, J. A. (2000). A history of research on yeasts 1: Work by chemists and biologists 1789–1850. Yeast, 16(8), 755–771. https://doi.org/10.1002/1097-0061(20000630)16:8<755::AID-YEA605>3.0.CO;2-4

Synthetic Biology & Syn3.0 / Syn3A

Gibson, D. G., Glass, J. I., Lartigue, C., Noskov, V. N., Chuang, R. Y., Algire, M. A., … & Venter, J. C. (2010). Creation of a bacterial cell controlled by a chemically synthesized genome. Science, 329(5987), 52–56. https://doi.org/10.1126/science.1190719

Hutchison, C. A., Chuang, R. Y., Noskov, V. N., Assad-Garcia, N., Deerinck, T. J., Ellisman, M. H., … & Venter, J. C. (2016). Design and synthesis of a minimal bacterial genome. Science, 351(6280), aad6253. https://doi.org/10.1126/science.aad6253

Breuer, M., Earnest, T. M., Merryman, C., Wise, K. S., Sun, L., Lynott, M. R., … & Karr, J. R. (2019). Essential metabolism for a minimal cell. eLife, 8, e36842. https://doi.org/10.7554/eLife.36842

Rees-Garbutt, J., Chalkley, O., Landon, S., Purcell, O., & Grierson, C. (2020). Designing minimal genomes using whole-cell models. Nature Communications, 11(1), 836. https://doi.org/10.1038/s41467-020-14698-1

Sc2.0: Synthetic Yeast Genome Project

Annaluru, N., et al. (2014). Total synthesis of a functional designer eukaryotic chromosome. Science, 344(6179), 55–58. https://doi.org/10.1126/science.1249252 (synIII)

Shen, Y., et al. (2017). Deep functional analysis of synII, a 770-kilobase synthetic yeast chromosome. Science, 355(6329), eaaf4791. https://doi.org/10.1126/science.aaf4791 (synII)

Xie, Z. X., et al. (2017). “Perfect” designer chromosome V and behavior of a ring derivative. Science, 355(6329), eaaf4704. https://doi.org/10.1126/science.aaf4704 (synI, synV, synIXR)

Mitchell, L. A., et al. (2017). Synthesis, debugging, and effects of synthetic chromosome consolidation: synVI and beyond. Science, 355(6329), eaaf4831. https://doi.org/10.1126/science.aaf4831 (synVI)

Wu, Y., et al. (2017). Bug mapping and fitness testing of chemically synthesized chromosome X. Science, 355(6329), eaaf4706. https://doi.org/10.1126/science.aaf4706 (synX, synXIV)

Wang, Y., et al. (2018). Synthesis of chromosome XII with design flexibility enabled by SCRaMbLE. Nature, 560(7716), 331–336. https://doi.org/10.1038/s41586-018-0370-z (synXII)

Zhou, Y., et al. (2024). Rapid synthesis of six synthetic chromosomes reveals multi-scale design principles for eukaryotic cells. Nature Communications, 15, Article 2416. https://doi.org/10.1038/s41467-024-54130-3 (synVII, synVIII, synXI, synXIII, synXV)

Zhang, W., et al. (2023). Manipulating the 3D organization of the largest synthetic yeast chromosome. Molecular Cell, 83(22), 3770–3784.e8. https://doi.org/10.1016/j.molcel.2023.10.005 (synIV)

Goold, H. D., et al. (2025). Construction and iterative redesign of synXVI, a 903 kb synthetic Saccharomyces cerevisiae chromosome. Nature Communications, 16, Article 841. https://doi.org/10.1038/s41467-024-55318-3 (synXVI)

Kutyna, D. R., et al. (2022). Construction of a synthetic Saccharomyces cerevisiae pan-genome neo-chromosome. Nature Communications, 13, 3628. https://doi.org/10.1038/s41467-022-31305-4 (neoChr)

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความ
Synthetic Biology: เมื่อมนุษย์เล่นบทพระเจ้า (ด้วยชีววิทยาสังเคราะห์) [EP.2]   ในตึกขนาดใหญ่สไตล์ลอฟท์ที่ออกแบบมาอย่างโมเดิร์น บนเนินเขาในซานดิเอโก นักวิจัยกำลังออกแบบสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ที่มีจีโนมแบบมินิมัล ในปี 2010 ทุกสื่อพาดหัวตัวใหญ่ หรือว่านักวิจัยจะเล่นบทพระเจ้า เมื่อทีมวิจัยจากสถาบัน...
บทความ
SynBio Column Recent Research Roundup | RRR EP. 02 [SynBio RRR EP. 02] ปรับเฉดสีดอกเบญจมาศด้วย CRISPR Epigenome Editing   ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์แล้ว ซื้อดอกไม้ให้ตัวเองหรือยังครับ~~~ อ้างอิงจากกรมวิชาการเกษตร ไม้ดอกไม้ประดับมีมูลค่าทางการตลาดในประเทศไทยอยู่มหาศาล โดยเฉพาะกล้วยไม้ ดาวเรือง และเบญจมาศ [1...
บทความ
SynBio Column Recent Research Roundup | RRR [EP.1] พิมพ์หนังสือทั้งเล่มด้วยดีเอ็นเอ   จดหมายพัสดุของคุณกำลังถูกส่งไปที่บ้านของคุณภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ นี่เป็นข้อความที่เข้ามาในอีเมลของผมหลังจากสั่งซื้อหนังสือที่เขียนลงบนดีเอ็นเอ (DNA) เล่มแรกของ Asimov Press(1) สำนักข่าวออนไลน์ที่ตั้งอยู่ในเมือง...
บทความ
Synthetic Biology: เมื่อมนุษย์กลายเป็นนักประดิษฐ์ชีวิต [EP.1]    “ยุคนี้คือยุคแห่ง ai แต่ยุคต่อไปคือยุคของเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)” เพราะความก้าวหน้าแห่งเทคโนโลยีชีวภาพยุคใหม่อาจจะทำให้ “มนุษย์ทำอะไรต่อมิอะไรได้ไม่ต่างพระเจ้า”   ประโยคนี้แม้จะฟังดูอหังการ์ แต่ว่าก็มีเค้ารางของความเป็นจริ...
บทความ
มาทำความรู้จัก Synbio นวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระดับ DNA ไปจนถึงพลิกโลกอุตสาหกรรม. Synthetic Biology เรียกย่อว่า SynBio หรือ ชีววิทยาสังเคราะห์ คือ การออกแบบ สร้าง ปรับแต่ง ไปถึงระดับ DNA เพื่อให้เซลล์เกิดการทำงานในรูปแบบใหม่ หรือพัฒนาไปในทางอื่นๆ ที่ดีขึ้น ซึ่ง SynBio นี้จะคล้ายคลึงกับการพั...
บทความ
ผศ. ดร. ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร อาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หรือผู้ก่อตั้ง Facebook page “Biology Beyond Nature: ชีววิทยาเหนือธรรมชาติ” ที่มีผู้ติดตามกว่า 46k คน ได้ปล่อยซีรี่ย์การสอนหัวข้อ  “ชีววิทยาสังเคราะห์และพันธุวิศวกรรมระดับจีโนม” ทั้งหมด 12 ตอน ท่านใดที่สน...